การเลือกสายไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม – K AND P HYDRAULIC รับอัดสาย ไฮดรอลิค

การเลือกสายไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม

ระบบไฮดรอลิค เป็นระบบที่เริ่มต้นบนพื้นฐานที่เรียบง่ายอย่างการ ใช้แรงดันของๆเหลวในการก่อให้เกิดแรงที่สามารถใช้ในเครื่องจักรประยุกตร์ ก่อนที่จะเริ่มต้นพัฒนากลายเป็นระบบที่มีความซับซ้อน หากแต่ว่าความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นมานี้ ในขณะเดียวกัน สามารถที่จะทำให้ระบบแรงดันของเหลวอย่างง่าย ให้กลายเป็นระบบที่สามารถใช้ในงานเครื่องจักรใหญ่ ได้เช่นกัน

จากที่เราได้กล่าวไป ระบบไฮดรอลิคคือการใช้แรงของๆเหลวในการทำให้เกิด "แรง" และ "งาน" ที่ถูกผันไปใช้ในการขับเคลื่อนอุปกรณ์เครื่องจักร ซึ่งในเมื่อก่อนจะเป็นแบบเรียบง่ายโดยอาศัยแรงกระแสการไหลของน้ำใน "ท่อ" ซึ่งน้ำที่ไหลจะมีแรงสะสมมากพอที่จะใช้ในการหมุนกังหัน หรือ ฟันเฟืองเพื่อทำให้เครื่องจักรเดิน ซึ่งระบบแบบเก่านี้มีข้อเสียคือ
- จำกัดแรงที่ของๆเหลวสามารถทำงานได้
- ต้องการพื้นที่ ขนาดใหญ่มากในการใช้งานและติดตั้ง
- สิ้นเปลืองในทุกๆทางที่สามารถจินตนาการออกได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่, เงิน, ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

แต่ด้วยการพัฒนาของศาสตร์ในไฮดรอลิค ปัจจุบันนี้เราสามารถที่จะประกอบชุดเครื่องจักรไฮดรอลิคที่สามารถมอบแรงดัน/แรงอัด ได้มากกว่าเมื่ออดีตเป็นหลายเท่า ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ไฮดรอลิคในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงนั้น เกิดขึ้นมาจาก เครื่องปั๊ม, ของเหลวที่ใช้ และ สายที่ใช้ในการอัดส่งแรง โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องหลักๆที่อาจจะดูเล็กน้อยแต่สำคัญมาก นั่นคือ สายของไฮดรอลิค

ในตลาดของสายไฮดรอลิค หลายๆยี่ห้อมักจะแข่งขันในเรื่องของ ความคงทนของสาย หรือไม่ก็ ความสามารถในส่งผ่านแรงดันของสาย หรือจะเป็นลักษณะพิเศษเสริมก็ตามแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสายไฮดรอลิคนั้น แบ่งออกที่ลักษณะพื้นฐานของมันโดยทีว่า:

ขนาด: การเลือกสายไฮดรอลิคนั้นควรจะถูกพิจารณาด้วยขนาดของเครื่องจักรที่จะปั๊มของเหลวก็ตามหรืออากาศก็ดีผ่านตัวสาย ข้างในของสายจะต้องมีขนาดที่กว้างมากพอที่จะรองรับอะไรก็ตามที่จะไหลผ่านมัน รวมไปถึงความสามารถในการทนต่อแรงดันและความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีในสายหรือจะเป็นจากสิ่งที่ไหลผ่านก็ตาม ซึ่งสายไฮดรอลิคที่ผลิตจากโรงงานทั่วไปจะมีหมายเลขกำกับระบุขนาดอยู่เสมอ

อุณหภูมิ: สายจะต้องสามารถรับอุณหภูมิได้ที่สองแบบด้วยกัน นั่นคืออุณหภูมิ "ที่สายถูกวางอยู่" กับ อุณหภูมิของ "สิ่งที่ไหลผ่านสาย" ทั้งสองลักษณะอุณหภูมินี้จะต้องมีค่าที่สูงอย่างสมดุลด้วยกันทั้งคู่ ความเข้ากันกับอุปกรณ์: เมื่อเลือกสายไฮดรอลิคตัวใหม่ ให้คำนึงถึงลักษณะความทนที่สายเก่าเคยทำได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับรองอุณหภูมิภายใน, ชนิดของๆเหลวที่สายเก่าสามารถรับรองได้ เป็นต้น